สถานที่ติดต่อ

122/9 อาคารแม่พระรับเกียรติยกขึ้นสวรรค์

ยานนาวา กรุงเทพฯ 10120

เวลาทำการ

เปิดบริการ จันทร์ - ศุกร์

หยุด เสาร์ - อาทิตย์

ติดต่อเพิ่มเติม

โทร : 02-681-3840-4

อีเมล์ : edba.thai@gmail.com

unnamed277

Power of Unity - พลังแห่งความเป็นหนึ่งเดียว

.............................

พระเยซูเจ้าตรัสตอบว่า

“อย่าห้ามเขาเลย ไม่มีใครทำอัศจรรย์ในนามของเรา

แล้วต่อมาจะว่าร้ายเราได้

ผู้ใดไม่ต่อต้านเราก็เป็นฝ่ายเรา”

(มาระโก 9:39-40)

เมื่อยอห์นเห็นใครคนหนึ่งขับไล่ปีศาจในนามของพระเยซูเจ้า

เขาก็คงจะรู้สึกว่า คนๆนี้ไม่มีสิทธิ์ เพราะไม่ใช่คนใกล้ชิดกับพระเยซูเจ้า

ไม่ใช่พวกเดียวกับเขา ในขณะที่พระเยซูเจ้าทรงตักเตือน

ถึงความเป็นหนึ่งเดียวกันในสายสัมพันธ์ของครอบครัวในพระจิตเจ้าองค์เดียวกัน

ในสังคมปัจจุบัน  เราก็พบอยู่เสมอกับคำว่าสิทธิ์เฉพาะพวกพ้องของตน

จนหลายครั้ง คนที่มีความสามารถแต่ขาดพวกพ้องก็ต้องยอมพ่ายแพ้ไป

พระเยซูเจ้าทรงตักเตือนเสมอในการสร้างความเป็นหนึ่งเดียวกัน

ในพระพรที่แตกต่างกันเพื่อเสริมสร้างซึ่งกันและกัน

เพราะเราเป็นหนึ่งเดียวกันในสายสัมพันธ์แห่งพระจิตเจ้า

มีศัพท์ประโยคหนึ่งเขียนไว้ว่า

"POWER OF UNITY" หรือ "พลังแห่งความเป็นหนึ่งเดียว"

ซึ่งมีการแปลความหมายของคำว่า “ความเป็นหนึ่งเดียว” ไว้ว่า

ความเป็นหนึ่งเดียว คือ ความกลมกลืนในตนเอง

และความสัมพันธ์ของแต่ละบุคคลภายในกลุ่ม

ผ่านการยอมรับและเห็นคุณค่าในพระพรความแตกต่างของสมาชิกแต่ละคน

ซึ่งมีผลงานอันเป็นเอกลักษณ์ของตน

ความหมายของการเป็นหนึ่งเดียวกันตรงข้ามกับความแตกแยก

อันเกิดจากความไม่เคารพในสิทธิของกันและกัน

ไม่เคารพต่อบทบาทหน้าที่ของผู้อื่น มีสายตาที่พร้อมจะควบคุมผู้อื่น

และหลายครั้งมันเกิดจากความอิจฉาในความโดดเด่นของผู้อื่นด้วยเช่นกัน

โมเสสตอบว่า “ท่านอิจฉาแทนเราหรือ เราปรารถนาจะให้องค์พระผู้เป็นเจ้า

ประทานพระจิตของพระองค์แก่ประชากรทั้งปวง

และให้เขาทุกคนเป็นประกาศกด้วย”

(กันดารวิถี 11:29)

เมื่อกล่าวถึงความอิจฉา ข้าพเจ้าเชื่อว่าหลายคนก็เคยผ่านประสบการณ์นี้มาเช่นกัน

แต่อาจจะไม่ได้แสดงออกถึงความรู้สึกว่าอิจฉาอย่างชัดเจน

เป็นความรู้สึกภายในที่เมื่อเราเห็นผู้อื่นดีกว่าเรา

หรือผู้อื่นได้รับการยอมรับมากกว่าเรา

ข้าพเจ้าเองก็เคยรู้สึกเช่นนั้น แต่พระก็ทรงตักเตือนข้าพเจ้า

โดยให้ข้าพเจ้าฝึกที่จะยินดีกับผู้อื่นเมื่อเขาได้ดี ประสบความสำเร็จในชีวิต

การปรับทัศนคติและความคิดนี้ทำให้ข้าพเจ้าพบว่าเมื่อเรายกย่องเชิดชูผู้อื่น

เราก็จะได้รับการยกย่องเชิดชู และได้รับการยอมรับเช่นกัน

ใจที่อิ่มเอมไปด้วยความยินดีนั้นยิ่งใหญ่กว่าใจที่ผอมโซไปด้วยความอิจฉา

มีบทความหนึ่งเขียนเอาไว้ว่า ความอิจฉาเป็นอารมณ์ประเภทหนึ่ง

ที่ผู้ที่เกิดอารมณ์นี้มักไม่ยอมรับว่าตนกำลังอิจฉา

และความอิจฉาเป็นธรรมชาติของมนุษย์ที่เราสามารถควบคุมและกำจัดมันได้

ด้วยการยอมรับในความแตกต่างระหว่างบุคคล

ในขณะที่เรายอมรับและชื่นชมผู้อื่นในพระพรที่พวกเขามี

เราก็ต้องฝึกที่จะยินดีและมั่นใจในพระพรที่ตนมีด้วยเช่นกัน

และที่สำคัญยิ่ง ความอิจฉายังแสดงให้เราเห็นว่า

เราไม่พึงพอใจในสิ่งที่พระเจ้าประทานให้แก่เรา

ดังนั้นแล้ว เมื่อเรายอมรับและยินดีในความแตกต่างของกันและกัน

เราภูมิใจในพระพรที่ตนมีและมั่นใจในพระพรนั้น

ความอิจฉาก็ไม่สามารถเข้ามาแทนที่ความรู้สึกของเราได้อีกต่อไป

และความเป็นหนึ่งเดียวกันก็จะเจริญงอกงามในใจเราทุกคน

ให้ความรัก  รวมเรา  เป็นหนึ่งเดียว

ความกลมเกลียว  เกี่ยวใจ  ให้เป็นหนึ่ง

ทะลายแรง  อิจฉา  ที่รัดดึง

รู้จักพึง พอใจ  ในตนเอง

รู้ยอมรับ  ความแตกต่าง ระหว่างคน

รู้เพิ่มผล  พระพร  ก่อนข่มเหง

ฝึกพอใจ  ในพระพร  ของตนเอง

รับความเก่ง  ที่แตกต่าง  ระหว่างกัน

เติมวิตามินใจด้วยพระวาจา

ไปกับ น้ำผึ้งหวาน

(Theresa Paradee Thescharee)
24-09-2021

Link เพื่อแชร์ >> https://bit.ly/3zHN7iP

Fr CECT

RakLook

GespelV

8 Poster edited.pptx

Poster สั่งซื้อคริสต์ 2024

Poster สั่งซื้อจริยะ 2024

Form2556

BG 03

ปก1024

GCE Youtube2

prawaja

EduSetha

find us on youtubeunnamed

liturgical calendar

bible diary 2024 cover

ordomissae